หูดเป็นผลมาจากฮิวแมนแพปพิลโลมาไวรัส(HPV) ในที่นี้ฉันขอเรียกง่ายๆ ว่า "หูด" แล้วกันนะคะ

รู้ไหมคะว่า 90% ของผู้ที่มีเชื้อไวรัสนี้ ไม่รู้ตัวและปล่อยทิ้งไว้จนลุกลาม โดยหูดเหล่านี้จะขึ้นมาตามผิวหนังทันทีที่ระบบภูมิคุ้มกันของเรา เปิดช่องให้เชื้อไวรัสเข้ามา

โดยปกติแล้วหูดนั้นไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา พวกมันเป็นเพียงเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง (ไม่ใช่มะเร็ง) แต่อย่างไรก็ตามมันสามารถจะเปลี่ยนไปสู่เนื้อร้าย (มะเร็ง) ได้ นอกจากนี้แล้ว มันยังมีขนาดใหญ่ขึ้นและแพร่กระจายได้ด้วย หากวันนี้คุณมีติ่งเนื้อ 1 เม็ดที่คอ ในสัปดาห์ต่อมามันอาจกลายเป็น 5 เม็ด และแน่นอนว่าในด้านความสวยความงามแล้ว หูดทำให้เราดูไม่ดีเอาเสียเลย

เจ้าเม็ดเล็กๆเหล่านี้คือติ่งเนื้อ
ที่ควรจะกำจัดออก

ฉันขอแนะนำว่าอย่าปล่อยทิ้งไว้ ควรจะรีบกำจัดพวกมันออกโดยเร็วที่สุด หูดส่งผลต่อผิวหนังรอบๆ วันนี้คุณอาจมีหูดขึ้นตรงนี้ 1 เม็ด แต่วันต่อมาจะมีอีก 3-4 เม็ดขึ้นในบริเวณใกล้ๆ กัน เมื่อปล่อยทิ้งไว้เป็นปี ผิวบริเวณนั้นจะเต็มไปด้วยหูด

ตอนนั้นฉันมีหูดขึ้นหนึ่งเม็ดที่นิ้ว

และนี่คือ 1 ปีต่อมา

แล้ววิธีไหนดีที่สุดสำหรับการกำจัดหูด? จากวิธีการทั้งหมดที่มี สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ

กลุ่มที่ 1 การทำลายเซลล์หูด

มี 3 วิธีหลักๆ ที่นิยมใช้กัน

เลเซอร์

เลเซอร์ช่วยสลายหูดที่มือคุณได้ วิธีนี้ค่อนข้างปลอดภัย เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อจากสิ่งสกปรกน้อย หลังจากหูดหลุดออก รอยแผลจะหายไปในหนึ่งสัปดาห์

ไนโตรเจนเหลว

วิธีนี้หูดจะถูกอบด้วยไนโตรเจนเหลว เพื่อเป็นการเร่งกระบวนการกัดเซาะหูดออกจากผิวปกติ ในแต่ละจุดอาจต้องใช้เวลา 10-30 วินาที วิธีนี้คือการทำให้เนื้อตายภายใต้อุณหภูมิต่ำ หูดจึงหลุดออกมา และยังเป็นการยับยั้งการขยายตัวของเนื้อร้ายไปในตัวด้วย

คลื่นไฟฟ้า

เป็นการใช้คลื่นไฟฟ้าความถี่สูง ที่ทำให้หูดไหม้เกรียม จากนั้นแพทย์จะทำการตัดส่วนที่ไหม้ออกด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ หลังจากนั้นจะทำการตกแต่งผิวหนังให้เรียบ

ข้อเสียของวิธีการเหล่านี้คือ ราคาแพง และบ่อยครั้งที่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ดูต่างหน้า หลายคนมาหาฉัน พร้อมกับรอยแผลจากการทำเลเซอร์ หรือคลื่นไฟฟ้า เพื่อลบรอยแผลเป็น

นี่คือตัวอย่างของลูกค้าที่กำจัดหูดด้วยวิธีที่ได้กล่าวไปข้างต้น

ผลกระทบจากการกำจัดหูดด้วยเลเซอร์ยังคงอยู่ แม้ผ่านไป 5 เดือนแล้ว

ติ่งเนื้อมีขนาดเล็กลงมาก แต่ก็ยังปรากฏรอยที่ดูไม่สวยงาม

หลังผ่านไป 6 เดือน รอยแผลเป็นยังสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจน

หลังผ่านไป 2 เดือน รอยแผลจากการทำเลเซอร์ที่ฝ่าเท้า ยังคงไม่หายสนิท

โดยส่วนตัวแล้วฉันไม่แนะนำให้ใช้วิธีการเหล่านี้

กลุ่มที่ 2 การใช้สารเคมี

มีหลายคนที่ใช้วิธีนี้ในการกำจัดหูด เห็นได้จากรายได้ที่ร้านขายยาได้รับจากการผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ นอกจากนี้ยังมีราคาถูกมากด้วย

แต่ปัญหาที่ถามมาคือหลังจากหูดหลุดออกไปแล้ว คุณกลับต้องมานั่งรักษารอยไหม้จากสารเคมีพวกนี้แทน การบาดเจ็บบนผิวหนังแม้เพียงบริเวณเล็กๆ ก็สามารถสร้างผลกระทบได้เช่นกัน จนอาจจะกลายเป็นมากกว่าแผลเล็กๆที่อยู่กับคุณไปชั่วชีวิต

ตัวอย่างของรอยไหม้จากการใช้สารเคมี

หากใบหน้าของคุณ มีรอยไหม้รุนแรง
ลองจินตนาการดูว่าจะเป็นอย่างไร

ถึงแม้ว่าคุณกำจัดหูดได้สำเร็จโดยไม่ทำให้ผิวไหม้ แต่ก็ยังมีรอยแผลที่ไม่น่าพิศมัยอยู่ดี

ดังนั้น กรุณาอย่าใช้วิธีเหล่านี้ในการกำจัดหูด เพราะมันเป็นการทรมานตัวเอง!

กลุ่มที่ 3 การกำจัดหูดด้วยธรรมชาติ

แน่นอนว่านี่คือวิธีการปลอดภัยที่สุด และที่สำคัญมันมีประสิทธิภาพไม่แพ้วิธีอื่นๆ เลย เพียงคุณเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ

ผลิตภัณฑ์ที่ฉันอยากจะแนะนำ คือ Papilovit ที่ช่วยคุณกำจัดหูดและติ่งเนื้อได้ทุกส่วนของร่างกาย และยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และช่วยยับยั้งการขยายตัวของเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดหูด นั้นหมายความว่า มันไม่เพียงช่วยกำจัดหูด แต่ยังช่วยลดโอกาสที่จะกลับมาเป็นหูดอีก

การกำจัดหูดด้วย Papilovit ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ข้อดีที่สำคัญ โดยเฉพาะกับผู้หญิง คือ มันไม่ทิ้งรอยแผลเป็น หลังหูดหรือติ่งเนื้อเหล่าหลุดออกไปแล้ว และความสะดวกของผลิตภัณฑ์ Papilovit คือ ใช้ได้เองที่บ้าน ในรูปแบบของแคปซูล

ผลิตภัณฑ์นี้เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังของเยอรมันมาหลายปีแล้ว

แน่นอนว่าการใช้ผลิตภัณฑ์นี้จะไม่เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว หรือทันทีเหมือนกับการใช้เลเซอร์หรือไนโตรเจนเหลว สำหรับ Papilovit จำเป็นต้องใช้เวลานานกว่ามาก แต่ผลที่ได้นั้นคุ้มค่าและปลอดภัยกว่ามากเช่นกัน แถมยังไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ให้ดูต่างหน้า

นอกจากประสบการณ์ของฉันเองแล้ว เพื่อนๆของฉันยังเป็นตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการกำจัดหูดตามคำแนะนำของฉันได้อย่างดี

ตัวอย่างผู้ที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ Papilovit

ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียน

Papilovit ไม่เพียงช่วยกำจัดหูดหรือติ่งเนื้อที่ใบหน้า
แต่ยังช่วยกำจัดได้ทุกส่วนของร่างกาย

ป.ล. มีคนถามฉันเข้ามาไม่น้อยทีเดียว ว่าจะหาซื้อ Papilovit ได้ที่ไหน เป็นเรื่องน่าเสียดายทีเดียวที่ร้านขายยาไม่นิยมนำผลิตภัณฑ์วางขาย แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะผลิตภัณฑ์แบบไม่สร้างกำไร ดังนั้นคุณสามารถสั่งซื้อได้จากเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น ผลิตภัณฑ์จะส่งไปยังที่อยู่ตามที่คุณแจ้งไว้ และชำระเงินปลายทาง สะดวก รวดเร็ว และไม่มีความเสี่ยง

แล้วจะสั่งซื้ออย่างไร? คลิกที่ปุ่ม "สั่งซื้อ Papilovit" ที่ด้านล่างนี้ แล้วคุณจะพบกับหน้าเว็บไซต์ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพียงกรอกชื่อ และหมายโทรศัพท์ จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปเพื่อให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และยืนยันการสั่งซื้อ

อดาเบล เวเบอร์
ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง

สั่งซื้อ Papilovit สั่งซื้อ Papilovit